ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ช่วยให้อังกฤษประเดิมชัยในยูโร U21 เหนือเช็ก

ในสัปดาห์ที่ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่แทบไม่สร้างความน่าประทับใจเลย อาจเป็นหน้าที่ของ ทีมชุดยู-21 ที่จะสร้างความทรงจำฤดูร้อนนี้แทนก็ได้
แม้ว่า ลี คาร์สลีย์ จะพยายามลดความคาดหวังเกี่ยวกับโอกาสของทีมดาวรุ่งชุดนี้ที่จะเดินรอยตามความสำเร็จของ เดฟ เซ็กซ์ตัน ผู้พาทีมคว้าแชมป์ยุโรปในปี 1982 และ 1984 แต่ชัยชนะที่ดูเป็นผู้ใหญ่และน่าเชื่อเหนือทีมชาติเช็กที่มีกองเชียร์หนุนหลังอย่างดังกระหึ่ม ก็บ่งบอกว่าเรื่องนี้อาจไม่เกินความเป็นไปได้
ประตูจาก ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, โจนาธาน โรว์ และ ชาร์ลี เครสเวลล์ ช่วยให้อังกฤษคว้าตำแหน่งจ่าฝูงของกลุ่ม B แม้เช็กจะมีความหวังกลับมาในช่วงสั้น ๆ ก็ตาม หากอังกฤษเอาชนะ สโลวีเนีย (ที่แพ้เยอรมนี 0-3 ในนัดแรก) ได้ในวันอาทิตย์ ก็จะการันตีการเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศทันที
คาร์สลีย์เคยเตือนว่า ทีมที่ขาดประสบการณ์ ซึ่งมีเพียงสองคนจากชุดแชมป์เมื่อสองปีก่อน อาจจะดู "เก้ ๆ กัง ๆ" ซึ่งก็เกือบเป็นเช่นนั้นเมื่อ เอลเลียต แอนเดอร์สัน จากน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ โดนใบเหลืองหลังเริ่มเกมแค่ 17 วินาทีจากการเข้าสกัดผิดจังหวะ
อย่างไรก็ตาม อังกฤษ ก็เริ่มต้นได้ดี โดยกัปตันทีม เจมส์ แมคอาตี รับบทฟอลส์ไนน์แทน เลียม เดลาป ที่ติดภารกิจสโมสรในการแข่งคลับเวิลด์คัพ
โอมาริ ฮัตชินสัน ยิงบังคับให้ ลูคัส ฮอร์นิแชก นายทวารเช็กเซฟที่เสาแรก ก่อนที่ วาคลาฟ เซจ์ค จะเฉียดต่อบอลเข้าไปที่เสาไกลอย่างหวุดหวิด แฟนบอลเสื้อแดงกว่า 90% ของสนามที่ข้ามพรมแดนมาเชียร์ดูมีหวัง เพราะเช็กไม่เคยผ่านรอบแบ่งกลุ่มรายการนี้ตั้งแต่ปี 2011
เช็กเกือบขึ้นนำจากลูกโหม่งของ สเตพาน ชาลูเป็ก แต่ เจมส์ บีเดิล ของไบรท์ตัน (ที่ยืมตัวไปเชฟฯ เว้นส์เดย์ ฤดูกาลก่อน) เซฟไว้ได้ และ อเล็กซ์ สก็อตต์ เคลียร์ลูกยิงอีกลูกจากลูกเตะมุมออกทัน ขณะที่คู่เซ็นเตอร์ ควานซาห์ กับ เครสเวลล์ ก็ดูไม่มั่นคงนัก อังกฤษถือว่าโชคดีที่ไม่เสียประตูช่วงนี้
ทีมยู-21 ชุดนี้มีตัวเลือกมากมาย ถึงขนาดที่ผู้เล่นอย่าง จู๊ด เบลลิงแฮม, ลีวาย โคลวิลล์ และ โคล พาล์มเมอร์ ที่ติดทีมชาติชุดใหญ่ของโธมัส ทูเคิลล่าสุด ก็ยังมีอายุพอจะเล่นในรายการนี้ได้
ทิโน ลิฟราเมนโต้ จากนิวคาสเซิล ผู้เคยติดทีมชาติชุดใหญ่ช่วงคาร์สลีย์เป็นรักษาการกุนซือ มีบทบาทสำคัญในการเปิดประตูแรก โดยเขาครอสบอลจนเกือบกลายเป็นประตูเอง แต่ แมคอาตี เก็บบอลได้ก่อนที่ เอลเลียตต์ จะยิงเข้าไป
อังกฤษเกือบโดนตีเสมอทันทีเมื่อบอลกระดอนแขน ควานซาห์ หน้าประตู ต้องให้ บีเดิล เซฟอีกครั้ง
ครึ่งหลังแค่ 3 นาที อังกฤษขึ้นนำ 2-0 จากจังหวะที่ ลิฟราเมนโต้ หลุดเข้าเขตโทษแล้วครอสให้ โรว์ โหม่งเปลี่ยนทางแบบแผ่ว ๆ จน ฮอร์นิแชก รับไม่ทัน แต่เช็กตีไข่แตกทันทีจากลูกครอสของ เซจ์ค ที่ แดเนียล ฟีลา โขกเข้าไป
คาร์สลีย์ตะโกน “เราต้องเล่น!” จากข้างสนามเพื่อกระตุ้นทีม ก่อนเปลี่ยนตัว เจย์ สแตนส์ฟิลด์ (เบอร์มิงแฮม) และ อีธาน เอ็นวาเนรี (อาร์เซน่อล) ลงใน 20 นาทีสุดท้าย
เอ็นวาเนรีไม่ทำให้ผิดหวัง เขาโชว์ลูกไขว้ลอดขาคู่แข่งก่อนลากเลื้อยเข้าไปยิงเกือบเป็นประตู จากนั้น เครสเวลล์ ก็โขกลูกเตะมุมของ สก็อตต์ เข้าประตู เป็นประตูปิดกล่อง พาอังกฤษประเดิมทัวร์นาเมนต์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ