อันเดรย์ ซานโตส และ กองกลางเชลซี คือ กุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพของโคล พาลเมอร์ ดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ

อันเดรย์ ซานโตส และ กองกลางเชลซี คือ กุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพของโคล พาลเมอร์ ดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ

นักฟุตบอล อันเดรย์ ซานโตส มิดฟิลด์ชาวบราซิล เตรียมลงสนามเปิดตัวกับเชลซีอย่างเป็นทางการในรายการ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ที่กำลังจะมาถึง โดยเขากลับมาจากการยืมตัวที่ยอดเยี่ยมกับสโมสรสตราส์บูร์กในลีกเอิง ฝรั่งเศส และในบทความของพีท ชาร์แลนด์ ได้กล่าวถึงเหตุผลว่า ทำไมดาวรุ่งวัย 21 ปีรายนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับการเล่นของ โคล พาลเมอร์ เพลย์เมกเกอร์ตัวหลักของทีม ให้ก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง และการปรับแท็กติกเล็กน้อย

อาจเป็นสิ่งเดียวที่เชลซีต้องการคุณคงเคยได้ยินเรื่อง Butterfly Effect แนวคิดที่ว่าการกระทำเล็ก ๆ ในช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์สามารถส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่ออนาคตได้ในเวลาต่อมาเช่นเดียวกัน เมื่อเชลซีทุ่มเงินกว่า 250 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัว เอ็นโซ เฟร์นานเดซ, มอยเซส ไคเซโด และ โรเมโอ ลาเวีย เข้าร่วมทีม พวกเขาคงไม่ได้คิดเลยว่า การตัดสินใจนั้นจะส่งผลอะไรกับ โคล พาลเมอร์จริง ๆ แล้ว ในตอนนั้น พาลเมอร์ยังเป็นนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่เลยด้วยซ้ำและแน่นอน พวกเขาคงไม่ได้คาดคิดเลยว่า

อันเดรย์ ซานโตส ดาวรุ่งวัย 18 ปี ที่สโมสรเพิ่งเซ็นสัญญามาจากบราซิลในเดือนมกราคม 2023 จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในภาพรวมเหล่านี้ด้วยแต่ตอนนี้ ซานโตส กลายเป็นที่พูดถึงของแฟนบอลไปแล้วเขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการยืมตัวกับ สตราส์บูร์ก ตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา และตอนนี้ก็มีชื่ออยู่ในทีมเชลซีชุดสู้ศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ที่กำลังจะมาถึงแต่คำถามคือความหมกมุ่นของเชลซีในการสร้างแผงมิดฟิลด์ระดับโลก รวมถึงการกลับมาของซูเปอร์สตาร์ดาวรุ่งอย่างซานโตสจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงศักยภาพขั้นใหม่ของนักเตะที่ดีที่สุดของพวกเขาออกมาได้หรือไม่เอนโซ มาเรสกา ผู้จัดการทีมเชลซี นิยมใช้ระบบ 4-2-3-1

ในฤดูกาลนี้ โดยวางให้ โคล พาลเมอร์ เล่นในตำแหน่งหมายเลข 10 และเกือบตลอดเวลาจะมี เอ็นโซ เฟร์นานเดซ และ มอยเซส ไคเซโด คอยยืนซ้อนอยู่ด้านหลังโรเมโอ ลาเวีย ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเพียง 16 นัด เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บ ขณะที่ เคียร์แนน ดิวส์เบอรี-ฮอลล์ ลงสนามเพิ่มอีก 13 นัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงมาจากม้านั่งสำรองจากสถิติของ Opta เมื่อนำผลงานของมิดฟิลด์ทั้ง 4 รายของเชลซีมาเปรียบเทียบแบบเฉลี่ย ต่อ 90 นาทีพบว่า ไคเซโด และ ลาเวีย ทำหน้าที่ได้อย่างโดดเด่นในฐานะมิดฟิลด์ตัวรับหรือเพลย์เมกเกอร์เชิงลึกขณะที่ เฟร์นานเดซ มีบทบาทในเกมรุกอย่างชัดเจน โดยทำได้ 6 ประตู กับ 7 แอสซิสต์

 

ท็อปเพล์เยอร์เจลีค

การแข่งที่น่าสนใจ